ขอต้อนรับบรรดาจอมยุทธมือสมัครใจทั้งหลายเข้าสู่ตอนที่
3 ของ ”กระบวนยุทธสยบเงาใต้มหานที”
หรือการถ่ายรูปใต้น้ำอีกครั้งหนึ่งครับ
หลังจากที่เราคัดตัวนางงามเข้ารอบผ่านมาด้วยคำถามแฝงคติธรรมล้วนๆ
ไปแล้ว
คราวนี้มาถึงการเรียนรู้ถึงกระบี่ที่จอมยุทธทั้งหลายจะใช้กันซะทีว่าท่านเหมาะกับกระบี่ประเภทใด
บางท่านอาจบอกว่าอันตัวเราเป็นถึงลูกคหบดีใหญ่จะใช้มีดสั้นก็หาได้เหมาะแก่ฐานะไม่
(คนมีเงินหยวนซะอย่าง)
จะเลือกใช้กระบี่เหล็กไหลด้ามหยกก็เป็นสิทธิ์ของท่าน
บางท่านเพิ่งจะล่ำลาท่านไต้ซือลงจากวัดเส้าหลิน
ผมบนศีรษะยังมิทันจะขึ้นดีก็อาจเลือกกระบี่ไม้ไผ่ไร้ด้าม
หรือบางท่านอาจเป็นแค่เพียงยาจกเฒ่าหาเช้ากินค่ำเช่นข้าพเจ้าก็อาจจะใช้แค่มีดสั้นหั่นผักด้ามพลาสติกก็คงจะสมฐานะ
แต่ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยาวสั้นหรือราคาสูงต่ำเท่าใด..หากเจ้าของมิเข้าใจในกระบี่ของตนแล้ว..
ก็เปรียบเหมือนไม้จิ้มฟันที่ผ่านการใช้งาน
มิสามารถเข่นฆ่าผู้ใดได้ฉันนั้น
(มีคติอีกแล้วครับท่าน)
อ้ะอ้ะ..อย่าเพิ่งคิดว่าผมบ้าหนังจีนแล้วพาลจะตะโกน
”ส่งแขก”
นะครับ
วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเรื่องกล้องถ่ายรูปดิจิตอลกันก่อนดีกว่า
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นห้างทั่วๆ
ไปหรือ”โป้มั้ยพี่พลาซ่า(พันธุ์ทิพย์)”
คุณจะสังเกตเห็นว่ากล้องดิจิตอลได้เข้ามาจับจองพื้นที่กันมากขึ้นกว่าสมัยก่อนๆ
แม้แต่ส่วนที่เป็นโทรศัพท์มือถือก็ยังไม่วายที่ลูกค้าจะถามหารุ่นที่ถ่ายภาพได้
แล้วไม่ถามด้วยนะว่ารับสัญญาณดีรึเปล่าแต่ดันไปถามว่าถ่ายรูปชัดมั้ย
จนคนขายแทบจะเอากล้องดิจิตอลติดกาวตราช้างขายไปพร้อมกับโทรศัพท์ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปซะเลย
และด้วยความต้องการของลูกค้าบวกกับราคากล้องดิจิตอลที่นับวันจะถูกลงเรื่อยๆ
ก็เลยทำให้ในตอนนี้มีกล้องอยู่ในตลาดไม่ต่ำกว่า
10
ยี่ห้อแถมแต่ละยี่ห้อมีกล้องให้เลือกอีกไม่ต่ำกว่า
10 รุ่น คำนวณแบบคร่าวๆ
ก็ปาเข้าไปไม่น้อยกว่า 100
รุ่นพอๆ กับโทรศัพท์มือถือ
ที่หนักกว่านั้นคือแต่ละรุ่นมีอายุในตู้กระจกพอๆ
กับแมลงวัน!
ออกมาได้แค่สองอาทิตย์ตกรุ่นซะแล้วทำเอาทั้งคนซื้อและคนขายเจ็บตัวไปตามๆ
กัน
แต่สินค้าเทคโนโลยีก็เป็นแบบนี้ล่ะครับจ่ายเงินแล้วต้องทำใจกันหน่อยซื้อมาก็ต้องใช้ให้คุ้มค่าตัวอย่าให้เป็นประเภท
”สิบปุ่มใช้หนึ่ง..ตะลึงคู่มือ..ซื้อมาขัดถู”
ก็แล้วกัน
เจ้ากล้องดิจิตอลที่ว่าเนี่ยะมันดีอย่างหนึ่งคือไม่ต้องใช้ฟิล์มแต่จะใช้เมมโมรี่เป็นตัวเก็บภาพ
จะถ่ายมากแค่ไหนก็ได้จนกว่าเมมโมรีจะเต็ม
ดูภาพหลังถ่ายได้ทันที
(พวกนักเล่นหวยไม่ค่อยชอบเพราะไม่ได้ลุ้น)
แถมไม่พอใจยังลบภาพที่ถ่ายไปแล้วได้อีก
ต่างจากกล้องฟิลม์ที่เราต้องไปซื้อฟิล์มเป็นม้วนๆ
มาใส่ แถมถ่ายได้แค่
36 รูป
จะดูภาพหลังจากถ่ายไปแล้วก็ไม่ได้ จะลบก็ไม่ได้
เรียกว่ากดไปแล้วไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะต้องเอาไปให้ร้านล้างก่อนจะได้มาดูภาพเด็ดๆ
(แต่จะเด็ดสะระตี่หรือเด็ดซะมอเร่ก็ตอนเปิดดูที่ร้านนี่แหละ)
คราวนี้พอมีกล้องดิจิตอลออกมาก็เลยลดทั้งความผิดพลาดและขั้นตอนต่างๆ
ไปเยอะ
ยอดขายก็เลยระเบิดเถิดเทิงเรียกว่าไปเที่ยวที่ไหนนี่ทุกคนต้องมีกล้องดิจิตอลแขวนคอกันคนละตัวสองตัวเป็นที่น่าเวียนหัวยิ่งนัก
อย่างบางงานที่เคยไป
(งานโชว์พริตตี้ที่มีรถยนต์เป็นอุปกรณ์จัดฉาก)
แทบไม่มีที่ยืนเพราะตากล้องเต็มหน้าเวทีไปหมดจนต้องใช้วิธียื่นเฉพาะมือเข้าไปถ่ายแต่พอชักมือกลับนอกจากจะไม่ได้ภาพแล้วอาจจะไม่ได้กล้องกลับมาด้วยเพราะกล้องตัวเก่งดันได้ผู้อุปการะใหม่ซะแล้ว..เฮ้อ!!
ถ้าเราสำรวจกล้องที่คล้องคอเหล่าตากล้องทั้งหลายก็จะพบว่ามีกล้องอยู่
3 ประเภท
ประเภทแรกเรียกว่ากล้องแบบกระจกสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว
(Single Lens Reflect)
ชื่อยาวอลังการแสนรำคาญที่จะเรียก ก็เลยนิยมเรียกกันสั้นๆ
ว่ากล้อง SLR
แต่ชาวบ้านอย่างเราๆ ชอบเรียกว่ากล้องโปร (มาจาก
Professional)
หรือกล้องมืออาชีพ
ผู้ใช้กล้องประเภทนี้เลยได้รับการชื่นชมว่าเป็นมืออาชีพอยู่บ่อยๆ
โดยเฉพาะบรรดาพริตตี้มักจะให้ความร่วมมือในการโพสต์ท่ามากกว่ากล้องประเภทอื่นๆ
จนคุณต้องแอบอิจฉา
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของกล้องประเภทนี้คือสามารถเปลี่ยนเลนส์ขนาดต่างๆ
ได้
ซึ่งจะมีขนาดตั้งแต่ตลับยาหม่องไปจนถึงปืนต่อสู้รถถังจึงทำให้สามารถใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ใช้
ส่วนคุณภาพของภาพถ่ายและประสิทธิภาพการใช้งานทิ้งห่างกล้องประเภทอื่นๆ
ไปพอสมควร
ตัวกล้องส่วนใหญ่จะอ้วนดำและหน้าตาน่าเกรงขามเหมือนไอ้แจ็คเรื่องแฟนฉัน
ราคาค่าตัวก็หนักหนาสาหัสพอๆ
กับน้ำหนักของเค้าล่ะครับ
ผู้ใช้งานกล้องประเภทนี้มักจะกระเป๋าหนักกว่าชาวบ้านเพราะต้องมีเงินพอสมควรถึงจะหามาใช้ได้แม้ว่าตอนซื้อมาจะทำให้กระเป๋าตังค์เบาลงบ้างก็ไม่วายที่จะหนักกระเป๋าหนักอีกเพราะเวลาพกพาเจ้ากล้องอ้วนดำไปใช้งานที่ไหนหากไม่ใส่เป้สะพายหลังหรือกระเป๋าสะพายบ่าคออาจจะทรุดได้
ดังนั้นผู้ใช้กล้องประเภทนี้จึงมักจะอยู่ในสภาพเหมือนนักเดินป่าและหน้าตาเคร่งเครียดแบบมืออาชีพ
(ยิ่งเดินยิ่งเครียดเพราะยิ่งหนัก)
ถ้าคุณเป็นคนไม่ชอบมีพันธะแนะนำว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาดเพราะอาจมีปัญหาทางบ้านได้
(ผมหมายถึงกล้องนะไม่ใช่พริตตี้อย่าเข้าใจผิด)
เนื่องจากกล้องโปรมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกรงขามถูกอกถูกใจบรรดาตากล้องทั้งหลาย
แต่กว่าจะได้มาครอบครองก็ต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนไม่น้อย
(ก็ราคาเลนส์ติดกล้องประเภทนี้ตัวนึงไม่ใช่ราคาสามกระบอกร้อยแบบข้าวหลามนิ..)
ก็เลยเกิดกล้องอีกประเภทที่มาตอบสนองผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่งที่อยากโปรแต่ทุนไม่พอเรียกกันว่ากล้อง
Prosumer คือเอาคำว่า
Professional มาสนธิกับ
Consumer
เลยกลายเป็นม๊อบเอ้ย!
กลายเป็นกล้องแบบกึ่งโปร รูปร่างไม่ถึงกับอ้วนดำแต่แค่อวบพองาม
คุณสมบัติเด่นก็คือเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้
แต่ที่ไอ้ตัวที่มากับกล้องนี่ก็ซูมได้ไกลถูกใจพวกแอบถ่ายอย่างเรา
(บางคนเฉไฉไปเรียกว่า
”ภาพแคนดิด”
ฟังดูดีหน่อย..ถึงเรียกยังไงถ้าคนถูกถ่ายรู้ตัวก็ไม่วายถูกด่าพอๆ กัน)
แถมราคาก็ถูกกว่าเห็นๆ
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยก็ทำเอากล้องโปรหนาวๆ
ร้อนๆ เรียกหายาแก้ไข้กันเป็นแถวๆ
เพราะมีทั้งระบบกัน(มือ)สั่น,
ระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวและอีกสารพัดที่คนผลิตจะนึกออกได้ถูกจับยัดเข้าไปในกล้อง
ซึ่งถ้าจะให้กล้องโปรทำได้ใกล้เคียงคงจะต้องไปจำนองบ้านหรือปล้นธนาคารเพื่อไปหาอุปกรณ์ต่างๆ
มาเสริมกันขนานใหญ่ การพกพาก็สะดวกเพราะไม่หนักมาก
(แค่อวบๆ ดูแว้บๆ ก็มืออาชีพเหมือนกันนะ)
พอที่จะเอาคอระหงของเรารับน้ำหนักของมันได้อย่างสบาย
ตอนนี้กล้องโปรเลยต้องลดราคาลงมาต่อสู้ขนานใหญ่จนทำให้ให้ผู้ซื้อเกิดความลังเลไม่ใช่น้อยว่าจะเป็นเจ้ามือเอ้ย!
มืออาชีพหรือกึ่งอาชีพดี แต่ขอแนะนำว่าข้อดีของกล้องประเภทนี้ก็คือตัวเดียวเที่ยวทั่วไทยถ่ายได้ตั้งแต่ภาพมาโครแมลงวันไปจนถึงนกแร้งบนยอดไม้โดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์มากมายแบบกล้องประเภทแรกดังนั้นเวลาไปไหนไกลๆ
หน้าตาคนถือก็จะยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าผู้ใช้งานกลุ่มแรกเยอะ
กล้องประเภทสุดท้ายเรียกว่ากล้องคอมแพ็ค
(Compact)
บางคนบอกว่าที่เรียกอย่างนี่น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า
”ขุนแผน”
เพราะสมัยสมัยเมื่อ 30
ปีที่แล้ว (เกิดทันมั้ยเนี่ย)
บริษัทโกดักได้ออกกล้องรุ่นหนึ่งที่ชื่อว่า ”กล้องขุนแผน”
ซึ่งราคาไม่แพงใช้งานง่ายขนาดกะทัดรัดขายดิบขายดีเหมือนแจกฟรี
เจ้ากล้องประเภทนี้มีอยู่หลากหลายรุ่นมากในท้องตลาด
ราคาก็ไม่สูงมากยิ่งออกมาใหม่ยิ่งถูก (ดีไม่ดีต่อไปแม่ค้าแถวหนองมนคงเอาไปขายแทนข้าวหลามแน่ๆ)
ที่สำคัญคือออกแบบมาได้ถูกใจสาวๆทุกเพศทุกวัย
ซึ่งเค้าคงวิจัยออกมาแล้วว่าบรรดาผู้หญิงทั้งหลายเป็นคนที่ตัดสินใจซื้อของง่ายที่สุดขอให้ต้องตาและต้องใจเป็นใช้ได้
เราก็เลยจะเห็นว่ากล้องประเภทนี้จะออกมาหลากสีสัน (แทบจะสั่งซื้อเจ็ดสีคละลายให้รู้แล้วรู้รอด)
แถมรูปร่างยังบางเบาพกพาสะดวกจนไม่นึกว่าเป็นวันนั้นของเดือน
(วันที่เอาออกไปถ่ายรูป..อย่าคิดมาก)
ส่วนประสิทธิภาพก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่เรียกว่าสมชื่อ
”ขุนแผน”
ที่เพี้ยนมาเป็น ”คอมแพ็ค” เพราะแกมีคาถาอาคมเยอะมากทั้งคาถารักษาไข้ป่า
(ระบบกันสั่น), คาถาตาทิพย์ (ระบบถ่ายในที่มืด),
คาถาจับวิญญาณ(ระบบถ่ายวีดีโอ), คาถาส่งโทรจิต
(ระบบเครือข่ายไร้สาย)
แถมบางทียังร้องเพลงกล่อมสาวๆได้อีก (เล่นเพลง
MP3ได้) จนไม่รู้ว่าต่อไปซักผ้า
หุงข้าว เฝ้าบ้านได้รึเปล่าก็สุดจะคาดเดาครับ
ผู้ใช้กล้องประเภทนี้ถ้าเป็นสาวๆ
ส่วนใหญ่จะหน้าตาอาโนเนะแบบเคียวโกะฟูกูดะ(น่ารักมากขอบอก)
ถ้าเป็นชายก็ประมาณเกาหลีๆ
แบบพี่ฟิล์มของน้องๆ
หรือแม้ว่าหน้าตาจะเป็นแค่หนูหิ่นหรือพี่ยิ่งยงถ้าได้ถือกล้องแบบนี้อยู่ในมือก็จะดูดีขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา
ถ้าไม่เชื่อก็ไปตบของใครมาลองถือดูก่อนได้แต่ถ้าติดคุกติดตะรางก็อย่ามาว่ากัน
(เลือก) กล้องส่องปลา
แล้วกล้องชนิดไหนที่เหมาะกับคุณกันล่ะ คำถามนี้ตอบยาก
เพราะจริงๆ
แล้วขึ้นอยู่กับตัวคุณเองมากกว่าว่าคุณต้องการกล้องแบบไหน
แต่ถ้าจนแล้วจนรอดยังตอบตัวเองไม่ได้ก็ลองติ้ต่าง(สมมุติ) ว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับสาวนางหนึ่ง
คุณจะเลือกใครต่อไปนี้
1. น้องเจน-สาวผู้สูงศักดิ์
-
สินสอดเธอแพงมากๆ
อาจต้องขายนาที่บ้านมาแต่งกับเธอ
-
เธอเอาใจยากหน่อยคุณต้องใช้เวลาปรับตัวและศึกษาเธอให้ลึกซึ้ง
-
เธอสวยรูปร่างสง่างามคุณควงเธอไปไหนก็มีคนชื่นชมว่าแสนจะไฮโซ
-
เธอชอบผู้ชายที่แข็งแรงและอุ้มเธอไปเที่ยวได้โดยไม่บ่นว่าตัวเธอหนัก
-
เธอเขียนรูปวิวได้สวยมากแต่ถ้าเราขอให้เธอเขียนรูปแบบอื่นบ้างเธอจะปฏิเสธและขอให้คุณหาคนมาช่วย
-
เธอเกิดมาเพื่อเขียนรูปห้ามใช้เธอทำอย่างอื่นเพราะเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
2. น้องจูน-สาวสมัยใหม่
-
สินสอดเธอถูกกว่าน้องเจนพอสมควรอาจต้องขายควายเหล็กที่บ้านมาแต่งกับเธอ
-
เธอเอาใจไม่ยากแต่คุณต้องใช้เวลาปรับตัวและศึกษาเธอให้ลึกซึ้งเหมือนกัน
-
เธอสวยรูปร่างสง่างามคุณควงเธอไปไหนก็มีคนชื่นชมแต่อาจมีนินทาบ้างว่าเป็นไฮโซเทียม
-
เธอตัวเบากว่าน้องเจนและเธอมั่นใจว่าคุณอุ้มเธอไหว
-
เธอเขียนรูปวิวได้สวยพอๆกับน้องเจนและถ้าเราขอให้เธอเขียนรูปแบบอื่นๆบ้างเธอก็ไม่เกี่ยงและทำได้ดี
-
เธอเกิดมาเพื่อทำอะไรได้มากกว่าที่น้องเจนทำได้
3. น้องจี้ด-สาวคล่องแคล่ว
-
สินสอดเธอถูกกว่าน้องจูนพอสมควรอาจต้องขายข้าวในนามาแต่งกับเธอ
-
เธอเอาใจไม่ยากและเธอรู้ว่าจะเอาใจคุณอย่างไร
-
เธอสวยรูปร่างกระทัดรัดคุณควงเธอไปไหนก็มีคนชื่นชมแต่อาจมีนินทาบ้างว่าไม่ไฮโซ
-
เธอตัวเบากว่าน้องจูนและเธอมั่นใจว่าไปไหนมาไหนกับคุณโดยที่คุณไม่ลำบาก
-
เธอเขียนรูปวิวได้ดีพอสมควรและถ้าเราขอให้เธอเขียนรูปแบบอื่นๆบ้างเธอก็ไม่เกี่ยงแต่ฝีมืออาจจะสู้น้องจูนไม่ได้
-
เธอเกิดมาเพื่อทำอะไรได้หลายๆ
อย่างและทำได้ดีกว่าน้องจูนอีกนะ
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเจ้าสาวคนไหนเป็นกล้องประเภทไหน
แต่ช้าก่อนครับ..ถึงเราจะไม่เกี่ยงเรื่องสินสอดหรือความสามารถของเธอแล้วก็ตาม..
เราก็ยังไม่สามารถแต่งงานกับเธอได้เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเจ้าสาวของเราว่ายน้ำเป็นรึเปล่า
เชื่อผมเถอะไม่ว่าเธอจะไฮโซหรือโลโซแค่ไหน หากคุณพาลงน้ำไปด้วยเนี่ยร้อยทั้งร้อยรับรองตายสนิทหามเข้าวัดกันไม่ทันเลยทีเดียว
ดังนั้นในตอนต่อไปเราจะมาดูกันว่ากว่าที่ผมจะได้เจ้าสาวหรือกระบี่คู่กายมาดำน้ำด้วยเนี่ย
ผมมีขั้นตอนอย่างไรในการสรรหาเรียกว่าเอามาจากเรื่องจริงผ่านเว็บ
โดยประสบการณ์ตรงเลยก็แล้วกัน
May the fin be with you ...
...10LOR ... |