อยากเรียนดำน้ำ แต่ไม่รู้อะไรเลย อ่านตรงนี้ก่อน !!!

เริ่มต้นเรียนดำน้ำด้วยหลักสูตร
Open Water Diver

เพิ่มพูนทักษะการดำน้ำ
Advanced Open Water
EFR
Rescue Diver
Dive Master

Bubble Maker
Seal Team
Discover Scuba Diving

อยากเรียนแบบส่วนตัว คลิก

ชมภาพห้องเรียน + สระว่ายน้ำ
DiveDNA.com บริการดำน้ำครบวงจร สอนดำน้ำตามมาตรฐาน PADI จัดทริปดำน้ำทั้ง Day Trip และ Liveaboard อ่าวไทย ชุมพร เกาะเต่า อันดามันเหนือ หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน บอน ตาชัย ริเชลิว อันดามันใต้ตะรุเตา หินม่วง หินแดง พีพี
จำหน่ายและให้เช่าอุปกรณ์ในราคาสมเหตุผล

รับซ่อมและบำรุงรักษา
BCD Regulator และอื่นๆ

สอบถามข้อมูลและโปรโมชั่น
Mobile: 081 700 6700
e-Mail: divedna@hotmail.com

โลซิน ไม่สิ้นหวัง

ใครบางคนส่งข่าวมาว่า “ลมหนาวมาแล้วนะ”  แต่สำหรับใจผมตอนนี้ “หนาวกว่าลม”

“จะดำน้ำได้เหรอ จะไปจริงๆ เหรอ”  “ก็ต้องไปแหละผมตอบ ดำได้ ไม่ได้ อีกเรื่องหนึ่ง ต้องไป !!”

2

อุบัติเหตุเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้หลังผมมีปัญหา การยกถังอากาศดำน้ำซึ่งต้องใช้หลังเป็นตัวรับน้ำหนัก ทำให้ผมหนักใจ และกังวลใจมิใช่น้อย  หลังจากทานยาตามใบสั่งของหมอและทำกายภาพทุกวัน ร่างกายก็ดีขึ้นบ้างแต่ยังไม่สมบูรณ์

ขณะเดียวกันในใจก็ลุ้นระทึกอยู่ว่าจะสามารถดำน้ำ และทำสิ่งที่ผมรักต่อไปอีกได้มั๊ย หรือต้องหยุด เลิกไปเลย

ลองคิดเล่นๆ ว่าหากต้องเลิกดำน้ำจริงๆ ผมจะทำยังไงกับชีวิต(สุนทรีย์) ที่เหลือ

“สังขาร” กับอายุ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การยกของผิดท่าผิดทาง เพียงนิด ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับร่างกายได้

เคยมีคนถามผมว่า “สามารถดำน้ำจนถึงอายุเท่าไหร่ หรือ คนอายุมากๆ ดำน้ำได้มั๊ย”

“ได้ครับ หลายคนที่เคยร่วมทริปกับผม อายุห้า -หกสิบกว่ากันทั้งนั้น” คำตอบนี้ผมตอบใครๆอยู่เสมอ ก่อนเกิดอุบัติเหตุกับตัวเอง แต่วันนี้ผมตอบตัวเองว่า “อย่าประมาท กับชีวิต” การมีร่างกายที่แข็งแรง พอจะดำน้ำได้จนถึงอายุ ห้า หกสิบกว่าเหมือนเพื่อนร่วมทริปนั้น หมายถึงการมีพลานามัยที่สมบูรณ์ ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ไม่ใช่ว่าดำได้อย่างใจนึกโดยปราศจากความสมบูรณ์ของร่างกาย

ทริปดำน้ำ”โลซิน” ที่เซ็ตไว้แล้วกับร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แต่ The show must go on และสุดท้ายผมก็ต้องไปตามกำหนดการ “ดำได้ ดำไม่ได้ ว่ากัน”

เรือดำน้ำหลายลำลอยรายรอบประภาคารกลางทะเลแปซิฟิกอ่าวไทย เมื่อช่วงสายของวันเสาร์ ปลายเดือนกันยายน

ประภาคารแห่งนี้เป็นจุดที่เรียกว่า “โลซิน” กองหินโผล่พ้นน้ำ ซึ่งนอกจากจะเป็นประภาคารส่องแสงไฟให้เรือรู้ว่ามีเกาะแก่งหินอยู่ตรงนี้จะได้ไม่มาชน ยังเป็นจุดในการหาผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกันระหว่าง มาเลเซียกับไทยด้านก๊าซธรรมชาติ

สมัยก่อน กว่าจะมาโลซิน ต้องไปขึ้นเรือกันที่ ปัตตานี หรือนราธิวาส แต่หลายปีหลังเหตุความไม่สงบทางภาคใต้ ทำให้นักดำน้ำเลือกที่จะขึ้นเรือกันที่สงขลาแทนเพื่อความปลอดภัย 

“โลซิน” อยู่น่านน้ำของจังหวัดปัตตานี ห่างจากฝั่งประมาณ 70 กว่ากิโลเมตร หากเรือวิ่งออกจากท่าเรือสงขลา หรือปัตตานี จะใช้เวลากว่า 9-10 ชั่วโมง ถ้าเรือออกจากท่าก่อนเที่ยงคืนจะถึง “โลซิน” ประมาณเก้าโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเร็วเรือและสภาพคลื่นลม เนื่องจากโลซินเป็นจุดที่ดำน้ำที่ไกลมาก เคยได้ยินว่า ”มาก็เสียดาย ไม่มาก็เสียดาย”

เพราะการเดินทางร่วมสิบชั่วโมง กับโอกาสที่หากเจอคลื่นลมแรง ไร้เกาะกำบัง ก็ต้องกลับท่าเรือกันอย่างเดียว มีนักดำน้ำหลายคนที่ไปไม่ถึงโลซิน ความหวัง ความศรัทธา(หรือไม่ก็เพื่อนหลอกมา)เท่านั้น ที่จะทำให้นักดำน้ำดั้นด้นมา”โลซิน” จนได้

การดำน้ำส่วนใหญ่จะดำกัน 2 วัน หรือประมาณ 7 ไดฟ์ มีจุดดำน้ำเยอะเหรอ หลายคนอาจสงสัย ไม่เยอะหรอกครับ ก็มีจุดเดียวนั่นแหละโดยมีประภาคาร เป็นองค์ประธาน จะวนซ้าย หรือวนชวา ก็ตามศรัทธา อ้อ !! ยังมีกองหินกองนอกอีกกองที่อยู่ทางทิศใต้ของประภาคาร ยอดห่างจากผิวน้ำประมาณ 8-10 เมตร มีดงดอกไม้ทะเล และฝูงปลาหูช้างว่ายหากินอยู่แถวนั้น และโอกาส “ลุ้น” ของใหญ่ ที่มีมากพอๆ กับกองใน หรือรอบประภาคาร

4 6

ไดฟ์แรกๆ ความหวัง ความฝันเต็มเปี่ยมอยู่ในแววตาของทุกคน แต่หลังจาก ดำน้ำ ขึ้นมากินข้าว หาวววววววว หวอดๆ ล้มตัวงีบๆ แต่แค่เคลิ้มๆ กระดิ่งเรียก “ดำน้ำครับ ดำน้ำ” ก็ปลุกเราขึ้นจากความฝัน และนึกในใจว่า “ปลุกทำไม คนจะนอน”

8 

พร้อมทั้งอาการกระปรี้กระเปร่าหมือนไดฟ์แรกๆ หายไป เหมือนต้องเอาปืนไปจี้ว่า “ต้องดำน้ำอีกแล้วเหรอ”

ไดฟ์ที่หนึ่ง ไดฟ์ที่สอง ไดฟ์ที่สาม ไนท์ไดฟ์(ดำกลางคืน)ผ่านไป  ไดฟ์ที่ห้า ไดฟ์ที่หก ความหวังของพวกเราเริ่มรางเลือน เพราะไร้เงาเจ้าตัวที่พวกเราอุตสาห์ดั้นด้นมาตามหาเค้า

ในไดฟ์สุดท้าย ไดฟ์ที่เจ็ดของทริป ความหวัง ความฝัน และความมุ่งมั่น ตีฟิน ตีฟิน และตีฟิน(ลิ้นห้อย) จากกองนอกหลังจากวนหาสัตว์ในตำนานแล้ว เราไม่เจอเค้า  เราตีฟินกันเพื่อเข้าไปกองใน หรือรอบประภาคาร”โลซิน” ห้านาทีสุดท้าย และอากาศเฮือกสุดท้าย หลังจากที่ลอยกลางน้ำกันมาร่วมสี่สิบนาที ผมเชื่อมั่นว่าเพื่อนร่วมทริปทุกคนหวังและภาวนาให้เจอเถอะเพราะไดฟ์สุดท้ายแล้ว หากไม่เจอเราจะกลับไปกินแห้ว และโดนเพื่อนนักดำน้ำถากถางว่า อะไร ? ไม่เจอเหรอ!! ประมาณนี้และ แต่กฏของ Secret ยังใช้ได้กับกระแสจิตของพวกเรา “จงมา จงมา จงเจอ มาเถอะ ขอร้อง จะขึ้นแล้ว(อันนี้ผมพากษ์จากความน่าจะเป็นของความรู้สึกของทุกคน และรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างว่า “ตูต้องเจอ”

ที่กลางน้ำ เงารางๆ ปรากฏขึ้น ก่อนที่จะเริ่มชัดขึ้น ชัดขึ้น พร้อมลิ่วล้อเหาฉลาม ว่ายเป็นพรวมตามลูกพี่ใหญ่มา “ฉลามวาฬ” ที่เราเฝ้าตามหา ตามล่าด้วยกล้องถ่ายรูปมาจนถึงไดฟ์ที่ 7 ก็มาให้เราเจอ เค้าลอยตัวนิ่ง เหมือนเครื่องบินกำลังจะ Landing เราทั้งกลุ่มเร่งความเร็วในการตีขา เพื่อที่จะถ่ายรูปเค้าให้ทัน แต่เสี้ยวนาที พี่ยักษ์ โบกหางทีนึง หายไปในม่านน้ำ

10

12

14

แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว กับทริป”โลซิน” ที่ไม่สิ้นหวัง ของเรา  พี่ฉลามวาฬมาโบกหางอำลาในไดฟ์สุดท้าย

ขึ้นเรือครบทุกคน เรือบ่ายหน้ากลับสงขลา พระอาทิตย์เริ่มตกน้ำยามเย็น สาดแสงสุดท้ายก่อนจะจมหายไปในขอบฟ้าฝากขโน้น พรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกอีกครั้งหนึ่งและทุกๆ วัน ใครที่ยังไม่เจอ”ฉลามวาฬ(Whale SharK) แมนต้าเรย์(Manta Ray) หรือตัวใดๆ ก็ตาม ที่คุณยังไม่เคยพบเจอพวกเค้า ดำน้ำต่อไปครับ ดำต่อไป แล้วคุณจะเจอพวกเค้าเองในไดฟ์หนึ่ง ในชีวิตคุณ จงอย่าคาดหวังว่าคุณจะเจออะไรๆ ที่คุณอยากเจอในทุกๆ ไดฟ์ที่ลง แต่จงมีความหวังในทุกๆ ไดฟ์ในการดำน้ำและในชีวิตคุณ