ไปดำน้ำที่ไหนก็ได้ อันดามันเหนือ อันดามันใต้

พี่ครับ ผมอยากไปดำน้ำครับ

อันดามันเหนือ หรืออันดามันใต้ล่ะ ?

ไปไหนก็ได้ครับ !! เป็นคำตอบสุดท้าย

เทศกาลสงกรานต์ พร้อมวันหยุดติดต่อกันหลายวัน เป็นโอกาสอันดีของนักดำน้ำที่จะได้หยุดงานแล้วไปดำน้ำกันอย่างหนำใจ โดยที่ไม่ต้องกังวลวันทำงาน

ตอนแรกเราไม่รู้หรอกว่าเรือที่ให้บริการดำน้ำ Liveaboard แทบทุกลำจะขึ้นอันดามันเหนือหรือหมู่เกาะสิมิลันกันหมด แต่พอเราไปดำตามจุดต่างๆ แถบอันดามันใต้แล้วนั้น ไม่เจอเรือ Liveaboard สักลำ เลยถึงบางอ้อว่าเค้าขึ้นไปดำน้ำอันดามันเหนือกันหมด อาจจะเป็นเพราะปีนี้กองหินริเชริว(Richelieu) ค่อนข้างสมบูรณ์ กุ้งตัวตลก ผลิดอกออกลูกกันหลายครอบครัว ใครๆ ก็เลยพากันไปเยี่ยม

ที่ท่าเรือรัษฎาจังหวัดภูเก็ต บนเรือเจ้าหญิงน้อย(Little Princess) คณะคุณหมอนักดำน้ำและครอบครัว ที่ดูท่าแล้วต้องเป็นทั้งนักบริหารกิจการและนักบริหารพุง เพราะมีอาหารการกินพิเศษๆ ชุดใหญ่ติดมาด้วย ทริปนี้ลาบปากแน่ๆ อิอิ จากท่าเรือรัษฎา เราบ่ายหน้าลงไปดำน้ำอันดามันใต้กัน เช้าตรู่ผมก็ตื่นขึ้นมาล้างหน้า สวัสดีพระอาทิตย์ที่หมู่เกาะห้า

ทริปนี้เราแบ่งออกเส้นทางดำน้ำออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงแรก หมู่เกาะห้า ประกอบด้วย เกาะห้าหนึ่ง เกาะห้าสอง เกาะห้าสาม เกาะห้าสี่ และเกาะห้าใหญ่ (เกาะห้า สอง สาม สี่ นั้น รวมตัวกันเรียกว่า เกาะห้าลากูน(Lagoon) ) น้ำสวยใส ไม่ลึกมาก แถม เกาะห้าสาม ยังมีหาดทรายสวยให้ขึ้นไปเล่นได้ หาดนี้มีชื่อว่า “หาดเทา”(ผมก็เพิ่งรู้ชื่อหาดนี้จากครูรุณทริปนี้แหละ)

ระหว่างกลางทางไปอาดัง ราวีก็จะเป็น หินม่วง หินแดง จุดดำน้ำ High Light ประจำอันดามันใต้

ฤดูกาลก่อนๆ ค่อนข้างเชื่อได้ว่า มาที่นี่ โอกาสเจอฉลามวาฬ(Whale Shark)  กระเบนราหู หรือแมนต้าเรย์(Manta Ray) มากแน่ๆ แต่ทะเลก็คือทะเล เข้าใจยาก ฤดูกาลนี้เป็นเรื่องของบุญกรรมว่าจะเจอหรือไม่เจอ ขนาดเจ้าปลาแมงป่อง Rhinopias ที่ทริปที่แล้วผมถ่ายรูปจน Mem เกือบเต็ม ยังหาไม่เจอแหะ

ช่วงที่สอง อันดามันใต้(สุด) ของน่านน้ำทะเลไทย หมู่เกาะ ตะรุเตา อาดัง ราวี หลีเป๊ะ พระเอกย่านนี้ ก็คือหิน 8 ไมล์ ที่บางทีก็เป็นตัวโกงอยู่บ่อยๆ เพราะบ่อยครั้ง น้ำจะขุ่นเขียว คลั่ก และแรง

และช่วงสุดท้าย หรือช่วงที่สามแถบทะเล กระบี่-ภูเก็ต ประกอบด้วย บิดะนอก บิดะใน โละซามะ มาหยา อ่าวนุ้ย หินมูสัง หรือ Shark Point เรือจมคิงส์ครุยเซอร์(King Cruiser) Anemone Reef เกาะดอกไม้

จากทั้งสามช่วงดำน้ำ มาฟังเรื่องราวไฮไลท์จาก Log Book ของผมสำหรับทริปนี้กันครับ

ไนท์ไดฟ์คืนแรกที่เกาะห้าลากูน เสียงสวบสาบอยู่ข้างหน้า ผมเห็นก้อนฟองน้ำเคลื่อนไหวได้ ทันใดนั้นเอง ฟองน้ำก็ใช้มือคว้าดาวขนนกเคราะห์ร้ายตัวนึง ใส่ปากแล้วเคี้ยวหยับหยับ ผมกระพริบตาถี่ๆ ฟองน้ำอะไรเคลื่อนไหวได้(ว่ะ) อ้อ !! มันคือเจ้าปูฟองน้ำนั่นเอง(เพื่อนแจ้ของผมเรียกมันว่าปูโบราณ) มันใช้ฟองน้ำเป็นบ้านของมัน หากมันไม่เคลื่อนไหว ก็คงไม่รู้ว่ามันคือปูฟองน้ำ ภาพฮารด์คอร์ ซาดิสม์ที่เห็นคือมันใช้ก้ามอันทรงพลังจับดาวขนนกใส่ปาก แล้วเคี้ยวดังกรอบกรอบ ขอโทษนะครับ เสียงมันดังในฟิลม์น่าตื่นเต้นจริงๆ

Comet หรือปลากัดทะเล สัตว์ที่ผมมักเจอมันแทบทุกทริป แต่พักหลังๆ สังขารที่จะมุดดูมันค่อนข้างลำบาก ซึ่งมันมักจะแอบอยู่ในถ้ำ เจ้าตัวนี้อยู่ในถ้ำที่หินแดง เป็นถ้ำที่อยู่สูงขึ้นไปเลยเจอตัวง่ายหน่อย เวลาเค้าแผ่หรือแพนครีบสวยดีครับ เหมือนปลากัดหม้อตัวยักษ์

รูปปะการังอ่อนนี้ ถ่ายที่หินแดง เอามานำเสนอและเรียนยืนยันว่าที่ชื่อว่า”หินแดง”เพราะแต่ก่อนนี้หินกองนี้ ปกคลุมด้วยปะการังอ่อนสมบูรณ์สุดๆ จำพวกสีนี้  เมื่อ 2-3 ปีก่อน ปรากฏการณ์แพลงตอนบลูม ทำให้พวกมันตายไปแทบเหลือแต่หิน แต่เพียงไม่นาน พวกมัน Avatar กำลังเกิดใหม่ครับ ดูแล้วดีใจว่าหากพวกมันกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เราจะมีสิ่งมีชีวิตให้ดำน้ำดูกันอีกหลายทีเดียว

และที่หินม่วง หินจมน้ำที่ใกล้กับหินแดง(หินโผล่น้ำ) นักดำน้ำเรือดำน้ำ Day Trip จากลันตาขึ้นมาโหวกเหวกบอกว่า Whale Shark !! Whale Shark!!! พอชาวคณะได้ยินเท่านั้นละก้อ ชั่วพริบตาขนาดคนที่แต่งตัวช้าที่สุด ยังยืนหน้า Plat Form เป็นคนแรก เอากับเค้าซิเอา พวกเราไต่สายทุ่นลงไป เพราะชั้นน้ำที่ใกล้ผิวน้ำยังคงแรงอยู่ แต่พอลงไปถึงสายทุ่น มีกระแสน้ำอ่อนๆ ผมและทีมรีบแตะขาไปหาเจ้า Rhinopias แต่ไม่เจอครับ ไม่เจอ สงสัยหลบ หรือตาบอดจากแสง Flash เดินไปไหนไม่ถูก  เราก็วนๆ เวียนๆ อยู่รอบๆ กองนั่นแหละครับ สลับกับแหงนหน้ามองฟ้าเป็นระยะ เผื่อเจ้าฉลามวาฬ หรือแมนต้าจะโฉบมา ขณะที่ความหวังกำลังหมด พร้อมอากาศและ NDL  เงาทะมึนเหมือนเรือดำน้ำเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้าๆ เจ้าฉลามวาฬพวกนี่แปลก เรามักจะเจอเค้าอยู่สองแบบ แบบแรกที่พอลงไปปุ๊ป เห็นปั๊บ แล้วตัวนั้นๆ มักจะเล่น วนเวียนอ้าปากกินแพลงตอน หรืองับนักดำน้ำเล่นเป็นชั่วโมงๆ ไม่หนีไปไหน มีแต่นักดำน้ำจะหน่ายแล้วกลับขึ้นเรือไปเอง

หรืออีกแบบเจอตอนจบ(ทำตัวเป็นตำรวจหนังไทยไปได้) ไดฟ์นี้เป็นแบบหลังครับ คือเจอตอนจบ ผมว่ายไปที่สายทุ่นแล้ว มองเหินฟ้าไปผิวน้ำ คุณพี่แกว่ายส่ายหางดุกดิกช้าๆ เชื่องๆ แต่ว่าทรงพลัง พร้อมบริวารสมุนพวก Shaker เหาฉลาม ปลาช่อนทะเล ผมแตะฟินนิด พร้อมหมุน Housing ถ่ายคลิปวีดีโอ กะว่าพอเค้าวนกลับมาอีกรอบ ค่อยถ่ายภาพนิ่งแต่ที่ไหนได้ พี่เค้าสะบัดหางอ้าวออกทะเลไป เลยได้แต่คลิปห้วนห้วน สี่ซ้าห้าวิ มาให้ชมกัน  Link Clip

ท่าทางเจ้าตัวตัวยังวนเวียนอยู่แถบกองหินนี้ละครับ เพราะตอนพวกเราขึ้นจากน้ำ จอดกินข้าว กระโดงและเงาของมันยังไหวๆ อยู่ใต้น้ำ แล้วพวกปลาเล็กๆ กระโดดหนีขึ้นผิวน้ำเป็นระยะๆ รอบรัศมีของหินม่วง หินแดง ใครไปช่วงนี้ ยังน่าจะเจอ

สำหรับจุดดำน้ำแถบเกาะอาดัง ราวี หลีเป๊ะ ไฮไลท์คือ เกาะสาวัง กับเกาะปลัย ที่เกาะปลัย(ไฟแว๊บ) เจ้า Sea Slug ตัวนี้เดินต้วมเตี้ยมอยู่ บอกตามตรงว่าเพิ่งเจอเจ้าลายนี้ครั้งแรกในชีวิตครับ แปลกตา ดีใจ และที่น่าแปลกใจอีกอย่างก็คือ ไปกี่ครั้งๆ เจ้าสองสามเกาะที่ว่านี้ น้ำจะขุ่น เขียวอื๋อ จะหาอะไรดูต้องค่อยๆ คลำ ค่อยๆคลาน  แต่ครานี้น้ำใสมาก พอบรรยากาศใต้น้ำเปลี่ยน เลยหาอะไรไม่ค่อยจะเจอ

ภาคขึ้นเกาะ เกาะหลีเป๊ะ สารภาพจริงๆ ว่าเวลาไปดำน้ำอันดามันใต้เรือมักจะไปจอดนอนแถวหลีเป๊ะ เวลาเรือไปถึงก็เย็นย่ำค่ำมืดทุกที ไม่ค่อยได้เห็นความงามของเค้าเท่าไหร่ แต่ครากระนี้ไปถึงเที่ยงแดดเปรี้ยง โอ้มายกอด !!  น้ำใส ทรายขาว ดูตัวเกาะและความเป็นอยู่ยังไม่เจริญมากนัก อาฆาตไว้ว่าคราวหน้าแกเสร็จฉันแน่ต้องมาสัมผัสให้ลึก กินข้าว กินปลา นอนพึ่งผุง แบบไม่ต้องดำน้ำลึกสัก 2-3 คืน คงสุขใจไม่ใช่น้อย

และห้วงท้ายที่สุด บิดะนอก บิดะใน ม้าน้ำ(Sea Horse)สีเหลืองอ๋อย แอบอิงม้วนหางอยู่ที่ปะการัง หากหาดีๆ ยังมีอีกหลายตัว ฉลามครีบดำ(Black Tip) ว่ายโฉบเห็นกระโดงหลัดๆ แล้วหายวับไปในแนวน้ำขุ่น

เราจบทริปกันที่ Shark Point ที่สงสัย Shark จะไม่ Appoint หรือไม่ก็อุณหภูมิของน้ำที่เปลี่ยนไป ทำให้ไม่เจอพวกมันสักกะตัว หรือพวกมันอาจออกไปอยู่ในที่ๆ ลึกลงก็เป็นได้  ก็เลยได้แต่จิ้มฟันจระเข้ปิศาจ(Ghost Pipe Fish) มาตัวนึง

เราจบทริปแบบประทับใจ เพราะไร้คลื่น ไร้ลม ไร้เรือดำน้ำ(Liveaboard)ลำอื่นๆ  ทริปนี้คงเป็นการปิดฤดูกาลดำน้ำอันดามันของพวกเรา เจอกันอีกที่อ่าวไทย ไปดำน้ำชุมพร-เกาะเต่ากันครับ