อยากเรียนดำน้ำ แต่ไม่รู้อะไรเลย อ่านตรงนี้ก่อน !!!

เริ่มต้นเรียนดำน้ำด้วยหลักสูตร
Open Water Diver

เพิ่มพูนทักษะการดำน้ำ
Advanced Open Water
EFR
Rescue Diver
Dive Master

Bubble Maker
Seal Team
Discover Scuba Diving

อยากเรียนแบบส่วนตัว คลิก

ชมภาพห้องเรียน + สระว่ายน้ำ
DiveDNA.com บริการดำน้ำครบวงจร สอนดำน้ำตามมาตรฐาน PADI จัดทริปดำน้ำทั้ง Day Trip และ Liveaboard อ่าวไทย ชุมพร เกาะเต่า อันดามันเหนือ หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน บอน ตาชัย ริเชลิว อันดามันใต้ตะรุเตา หินม่วง หินแดง พีพี
จำหน่ายและให้เช่าอุปกรณ์ในราคาสมเหตุผล

รับซ่อมและบำรุงรักษา
BCD Regulator และอื่นๆ

สอบถามข้อมูลและโปรโมชั่น
Mobile: 081 700 6700
e-Mail: divedna@hotmail.com

นักดำน้ำ กับอุณหภูมิ

ก่อนอื่น เรามาดูถึงเรื่อง อุณหภูมิโดยทั่วไปก่อน
อุณหภูมิน้ำทะเลของบ้านเราโดยส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 29-32 องศาเซลเซียสและเนื่องจากน้ำสามารถพาความร้อนได้ดีกว่าอากาศถึง 20 เท่า ดังนั้น เราจึงต้องมี Wet Suit เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนออกจากร่างกาย
และ การเลือกซื้อ Wet Suit ก็คือให้พอดีตัวครับ น้ำจะได้ไหลผ่านตัวน้อยลง

สงกรานต์ที่ผ่านมา (ปี 48) ที่สิมิลัน ผมเจอ Thermo Cline หรืออุณหภูมิของน้ำต่างชั้นกัน (วิธีดูง่ายๆ อีกอย่างครับ เวลาเราดำๆ อยู่แล้วมองไป เห็นน้ำเป็นเหมือนน้ำเชื่อมนั่นหละครับ)  ในบางไดฟ์ ไดฟ์คอมของผมบอกว่าอุณหภูมิเหลือเพียง 27 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง  กรณีนี้ถ้าไม่มี Wet Suit ก็คงแย่เหมือนกันครับ

แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่มีผลเกี่ยวกับการดำน้ำของเราเหมือนกัน นั่นก็คือ “ฮีทสโตรค (Heat Stroke)”

“ฮีทสโตรค (Heat Stroke)” เป็นโรคที่เกิดจากการที่ “ร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว” จนร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสะสม จนทำให้อวัยวะภายใน ร้อนระอุจน “สุก” และทำงานผิดปกติ หรือหยุดทำงาน และทำให้ “เสียชีวิต” ในที่สุด !!

ปกติร่างกายจะขับ “เหงื่อ” และ “ปัสสาวะ” ออกมาทำให้อุณหภูมิในร่างกายให้สมดุล” ซึ่งทำให้เราหิวน้ำ แต่สำหรับคนที่เกิดอาการของโรค “ฮีทสโตรค” ร่างกายไม่เพียงแต่ขับน้ำออกมาพร้อมกับเหงื่อเท่านั้น แต่ยังสูญเสียเกลือแร่ออกมาพร้อมกับน้ำด้วย ดังนั้นสมองจะไม่มีทางรู้เลยว่าร่างกายเกิดการขาดน้ำเนื่องจากระดับความเข้มข้นของเลือดไม่เปลี่ยนแปลง

ขยายความต่อไปว่า...เมื่อร่างกายมีการเสียน้ำมากเกินไป ปริมาณเลือดจะลดลงจนไม่อาจไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างทั่วถึง...โดยเฉพาะสมอง และร่างกายจะไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียน้ำอีก โดยต่อมเหงื่อจะหยุดทำงานทันที ซึ่งแม้จะหยุดการเสียน้ำได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ...ความร้อนไม่สามารถระบายออกได้

ถึงจุดนี้ก็จะทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เปรียบเหมือนกับหม้อความดันที่กำลังเดือดบนเตา ผลก็คืออวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น หัวใจ, ปอด, ตับ, ม้าม หรือแม้กระทั่งสมอง จะเกิดภาวะ “ร้อนจนสุก” และจะทำงานผิดปกติ หรือหยุดการทำงาน อย่างที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ต้น

ดังนั้นหากไม่อยากเป็น Heat Stroke ก็อย่าใส่ Wet Suit ไปเที่ยวเล่น หรือวิ่งนะครับ :-) ถ้าคุณแต่งตัวเพื่อเตรียมลงน้ำและตอนนั้นอากาศร้อน ก็เอาน้ำราดตัวเสียหน่อย  และควรดื่มน้ำเยอะๆ ทั้งก่อนและหลังดำน้ำ เราจะได้อยู่รอด ปลอดภัย ดำน้ำไดฟ์ต่อไปอย่างสนุกสนานครับ